คลับแอสทีเรีย สร้างรายได้ 48,000 เพียง 19 เดือน

คลับแอสทีเรีย สร้างรายได้ 48,000 เพียง 19 เดือน
คลับแอสทีเรีย สร้างรายได้เกษียณเพียง 19 เดือน ไม่มีการ Cycle, ไม่มี Matrix , ไม่มี Strightline ไม่ใช่เว็ป Hyip ไม่ต้องรอให้มีดาวน์ไลน์เพื่อจะได้รับรับเงิน ไม่มีดาวไลน์ ไม่มีปัญหา... ได้เงินทุกคน แนะนำ….คลับ แอสทีเรีย โปรแกรมแบ่งปันผลประโยชน์อย่างแท้จริง! ไม่ใช่โปรแกรมลวง! คลับแอสทีเรีย จากอดีตผู้อำนวยการธนาคารโลก – แอนเดรีย ลูคัส

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

การ verified บัตรเดบิต-เครดิต







บัตรเสมือนเครดิต เพื่อการรับ – จ่ายเงินออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต
ปัจจุบันได้มีบัตรเสมือน ที่นำมาอัพเกรดใช้แทน บัตรเครดิตเพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ได้

มีที่นิยม และแนะนำว่าใช้ได้ง่าย 2 ชนิด จาก 2 ธนาคารที่รองรับ

1. K-web shoping card จากบริการ k-cyber banking ของ ธนาคารกสิกรไทย

2. Be1st อัพเกรดจากบัตรเดบิต(ATM) ของ ธนาคารกรุงเทพ ฯ

หน้านี้แนะนำสำหรับผู้ที่มีบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ฯ อยู่แล้ว หรือสะดวกที่จะใช้บริการธนาคารนี้

อ่านแล้วทำตามขั้นตอน คุณก็จะสามารถมีบัตรเครดิตที่ใช้ รับ – จ่าย ออนไลน์ได้ทันที

(คนละส่วนกับ การรับ-ส่ง-โอนเงินปกติของธนาคาร ผ่านอินเตอร์เน็ตทั่วไป)


--------------------------------------------------------------------------------

Be1st บัตรบีเฟิร์ส ของ ธนาคารกรุงเทพ ฯ
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต
สามารถนำบัตรเดบิต ( ATM ) คือ บัตร Be1st ( บี-เฟิร์ส ) ของธนาคารกรุงเทพ ฯ เอามา Verify เพื่อใช้เป็น เสมือนบัตรเครดิตออนไลน์ได้

ผู้มีบัตร Be1st อยู่ก่อนแล้ว สามารถ Verify นำมาใช้ได้เลย

สำหรับผู้ที่จะทำบัตรใหม่
ให้เตรียมบัตรประชาชน + ค่าธรรมเนียมบัตร ( 300 บาท ) + เงินฝาก 500 บาท
ขอเปิดบัญชีออมทรัพย์ ก็จะได้บัตร Be1st มาใช้
บัตร Be1st ( บีเฟิร์ส ) คือ บัตร ATM ที่ออกโดยธนาคารกรุงเทพ มีสัญลักษณ์ VISA อยู่หน้าบัตร




--------------------------------------------------------------------------------

บัตร be1st (บีเฟริส) มี 3 แบบ
1. บีเฟริสทั่วๆไป มี csc 9 ตัวด้านหลังบัตร ดูรูปตัวอย่าง


2. แบบ International มี csc 3 ตัว หลังบัตร

3. แบบไม่มี csc ด้านหลังบัตร ให้ใช้ เลข 000 แทน (อาจใช้ไม่ได้ ต้องลองดูก่อน)

ข้อมูลของ บัตรที่ต้องใช้
เลขบัตร 16 หลัก อยู่ด้านหน้าบัตร (วงกลมที่ 1)
วันเดือนปีที่หมดอายุ อยู่ด้านหน้าบัตร (วงกลมที่ 2)
บัตรใครไม่มีวันที่ ให้ตั้งวันที่หมดอายุเอง โดยตั้งปีหมดอายุเกิน 4 ปีขึ้นไป
ชื่อเจ้าของบัตร อยู่ด้านหน้าบัตร (วงกลมที่ 3)
เลข CSC 3 ตัว ท้าย อยู่ด้านหลังบัตร (วงกลมที่ 4) ถ้าใครไม่มี ให้ลองใช้ 000



--------------------------------------------------------------------------------

การเตรียมบัตร Be1st ให้พร้อมใช้ในระบบออนไลน์
1. บัตร Be1st รุ่นหลังบัตร ไม่มีเลข 3 ตัว ให้นำบัตรไปเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ นำสมุดบัญชี บัตรประชาชน และ บัตร Be1st ไปที่สาขาของบัญชี ขอทำบัตรรุ่นใหม่มีเลข 3 ตัวหลังบัตร บางสาขาจะรับบัตรได้เลย

บางสาขาจะให้รอ 7 วัน (ระบบ ธ.กรุงเทพฯ บางสาขาล้าหลัง ส่วนใหญ่ต่างจังหวัด ลองถามดูว่าทำไมบางสาขาได้บัตรทันที เจ้าหน้าที่บางคนไม่ได้อัพเดทข้อมูลเลย ทางธนาคารปรับระบบให้รับบัตรได้โดยไม่ต้องรอ 7 วันแล้ว)

2. บัตร Be1st รุ่นใหม่ ที่มีเลข 3 ตัวหลังบัตร ก่อนนำไปสมัคร Paypal ต้องทำขั้นตอนการ Verified by Visa กับ ธ.กรุงเทพฯ ก่อน มีขั้นตอนเป็น 3 ส่วน ดังนี้

โทรศัพท์ไป Verified ที่ 1333 หรือ +66-2645-5555 end_of_the_skype_highlighting end_of_the_skype_highlighting


- กด 1 เลือกภาษาไทย
- กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
- กด 1 ยืนยัน เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
- กดหมายเลข16 หลัก หน้าบัตร Be1st ของคุณ
- กดเลขบัตร เอทีเอ็ม 4 หลัก (หรือ รหัสลับส่วนตัว (PIN) ของคุณ กรณีทำบัตรมาใหม่ ๆ)
- กดตั้งหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ และกด #
- กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลัก เดิมอีกครั้งอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน และ กด #

เป็นอันเสร็จสิ้นการขอหมายเลขอ้างอิง(Reference Code)
นำเลขอ้างอิง 8 หลักที่ตั้งเสร็จ ไป Verified by Visa ที่ลิ้งค์ หน้าเว็บไซต์ของ ธ.กรุงเทพ ฯ

https://ipay.bangkokbank.com/bblenroll/bkkCard.aspx?pg=0

การทำ บีเฟิร์ส ที่ลิงค์ของธนาคาร มี 5 ขั้นตอน
1. ใส่เลข 16 หลัก หน้าบัตร บีเฟิร์ส กด next
2. Verify identity ตรงนี้ให้ใส่หมายเลขอ้างอิง 8 หลัก ที่ตั้งไว้ทางโทรศัพท์ กด next
3. Create password จะมีช่องให้กรอก
3.1 ข้อความอ้างอิง ตั้งอะไรก็ได้เป็นภาษาอังกฤษ
3.2 ตั้งพาสเวิร์ด 6 หลักเป็นตัวเลขอย่างเดียว แล้วกรอกพาสเวิร์ดซ้ำ 2 ช่องต้องเหมือนกัน
3.3 กรอกอีเมลที่ติดต่อได้สะดวก
3.4 เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ติดต่อได้ ระบบจะใส่ 0 ไว้ให้ ใส่เลข 8….ต่อได้เลย
4. Terns Conditions ตรงนี้เป็นหน้าต่าง กฎกติกา ให้อ่านแล้วติ๊ก ยอมรับ กด next
5. สมบูรณ์

ตั้งวงเงินในการใช้จ่ายสินค้า โทรไปที่ 1333 อีกครั้ง
- กด 1 เลือกภาษาไทย
- กด 3
- กด 3 อีกครั้ง
- กดหมายเลข 16 หลัก หน้าบัตร Be1st
- กดเลขบัตร เอทีเอ็ม 4 หลัก
- กด 2 เพื่อตั้งวงเงิน
- กด 1 เพื่อตั้งวงเงิน 2 หมื่นบาท

หมายเหตุ : วงเงินที่ตั้งคือ วงเงินที่จะใช้จ่ายออนไลน์สูงสุดได้ในแต่ละวัน ไม่ได้หมายถึงจะต้องมีเงินในบัญชีถึงจะสมัครได้ และสามารถเข้ามาเปลี่ยนเพิ่มหรือลดได้ตลอดเวลา

เสร็จสิ้นขั้นตอนทำบัตร Be1st

--------------------------------------------------------------------------------

ขั้นตอนเตรียมบัตร K-Web Card (บัตรเคเว็บการ์ด)
ผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต เพื่อใช้ทำธุรกิจ สามารถใช้ บัตรเคเว็บ ของธนาคารกสิกรไทยได้

k-web shopping card หรือ k-web card (ชื่อ เก่าคือ e-web card)

ในบริการ k-cyber banking

เป็นบัตรซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตของกสิกรไทย ออกให้ผู้ถือบัญชีกสิกรไทยได้ใช้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรมากมาย สามารถเปิดใช้ได้ง่าย และรวดเร็ว นอกจากนี้ได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว




--------------------------------------------------------------------------------

เริ่มการทำบัตร K-Web Card
เงื่อนไขการใช้บริการ
- มีบัญชีเงินฝากของธนาคาร กสิกรไทย
- เป็นสมาชิก K-Cyber Banking

ค่าธรรมเนียม
- ค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท
- พิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี (ปีแรก)

ค่าใช้จ่ายในการทำ K-Web Card
- ค่าเปิดบัญชีธนาคาร ฟรี
- ค่าบัตร ATM 200-500 บาท
(ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพื่อไม่เสียเงินเพิ่มในส่วนนี้)
- ค่าเปิดใช้ K-Cyber Banking ฟรี
- ค่าเปิดใช้ K-Web Card ฟรี
- ฝากเงินในบัญชี 500 บาท

เบ็ดเสร็จ 500 – (1,000) บาท (ค่า ATM เป็นตัวแปร)

บริการ ทำธุรกรรมผ่านเน็ต เช่น โอนเงิน, ชำระเงิน, ดูรายการเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องไปธนาคาร เรียกธนาคารออนไลน์ ของธนาคารกสิกรไทย ว่า K-Cyber Banking

ตัวอย่าง เคเว็บการ์ด จะเป็นเลขบัญชีเท่านั้น ไม่ได้เป็นตัวบัตร




ดูได้ในบัญชี ธนาคารกสิกรออนไลน์ ของเราเอง


--------------------------------------------------------------------------------

การเปิดสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย พร้อมกับการเปิดบริการ K-Cyber Banking
1. นำบัตรประชาชน ไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ ที่ธนาคารกสิกรไทย พร้อมทั้งบอกว่า ขอเปิดใช้บริการ K-Cyber Banking ด้วย (เค-ไซเบอร์-แบ้งกิ้ง) เจ้าหน้าที่จะเอาแบบฟอร์มให้กรอก ต้องกรอกอีเมล์ และเบอร์มือถือ (เอาไว้รับรหัสทาง sms)
(หากไม่มีอีเมล์ ให้เปิดอีเมล์เอาไว้ก่อนไปธนาคาร)

*ถ้ามีบัญชีกสิกรอยู่แล้ว เพียงนำสมุดบัญชี-บัตรประชาชน ไปขอเปิด K-Cyber Banking (สาขาไหนก็ได้)*

2. กลับมารออีเมล์จากธนาคาร ประมาณไม่เกิน 24 ชม. เพื่อทำขั้นตอนต่อไป


--------------------------------------------------------------------------------

เริ่มเปิดใช้ K-Cyber Banking
1. เข้าเว็บไซต์
https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html

เลือกระบบภาษา เป็นภาษาไทย ตามภาพ
ชื่อผู้ใช้งาน พิมพ์ ……….(หมายเลขบัญชีธนาคาารของคุณ)
รหัสผ่าน พิมพ์ ………….(หมายเลข PIN 1 ที่ธนาคารให้มา)
คลิก เข้าสู่ระบบ


2. อ่านเงื่อนไข ตามภาพ แล้ว คลิก ยอมรับ

3. กรอกรายละเอียด
กำหนดชื่อผู้ใช้งาน
ชื่อผู้ใช้งาน พิมพ์ ชื่อที่เราต้องการใช้ Login กำหนด 6-8 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้
ยืนยันผู้ใช้งานอีกครั้ง พิมพ์ เหมือนเดิมอีกครั้ง

กำหนดรหัสผ่าน
รหัสผ่านเดิม พิมพ์ รหัส PIN 1
รหัสผ่านใหม่ พิมพ์ รหัส ที่เราต้องการ ให้มี 8-10 ตัวอักษร โดยเป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้
ยืนยันรหัสผ่านใหม่อีกคร้ง พิมพ์ รหัสใหม่อีกครั้งให้เหมือนกัน

*จดชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านใหม่ เอาไว้ใส่สมุดเพื่อกันลืม


4. กรอกข้อมูลของคุณช่องที่มีเครื่องหมาย (*) ต้องพิมพ์ให้ครบ



5. ตรวจดูข้อมูลของคุณว่าครบหรือไม่อีกครั้ง ถ้าครบ กดปุ่ม ยืนยัน



6. รหัสรักษาความปลอดภัย
รหัสรักษาความปลอดภัยใหม่ พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นต้องมี 10-12 ตัวอักษร โดยเป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมดหรือผสมกันก็ได้

ยืนยันรหัสรักษาความปลอดภัยใหม่อีกครั้ง พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นอีกครั้งให้เหมือนกัน
**แนะนำให้ใช้รหัส OTP โดยเลือกที่ช่องแล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ลงไป โดยทุกๆครั้งที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเว็บ จะมีการแจ้ง Password ไปที่โทรศัพท์ ทำให้เราไม่ต้องจำ แล้ว Password แต่ละครั้งก็จะไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะปลอดภัยมาก

jgYbcYswc4/TJHbkeNn3fI/AAAAAAAAAHo/jXpaIoqpvYM/s1600/ktb6.png">

7. เจอหน้านี้ ก็เรียบร้อย กับการตั้งค่าเมื่อเข้าสู่บริการครั้งแรก




--------------------------------------------------------------------------------

หลังจากเวลาผ่านไป 1 วัน
Loginเข้าไป ที่เว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย

https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html

ด้วย Username และ Password ใหม่ ที่ได้ตั้งไป (ที่จดเอาไว้)

คลิกที่ ดูรายละเอียดบัตร ที่เมนูด้านซ้ายมือ


เลือกบัญชีที่มีตัวเลข 16 หลัก (ที่ยาวกว่า) คือเลขเคเว็บการ์ดที่เราได้มา


ถ้ามี เพียง 1 บัญชี แสดงว่า ทางธนาคาร ยังไม่ได้ส่ง เลขที่ K-web Card มาให้
ต้องรอ หากเกิน 24 ชม. นับจากวันที่ขอบัตร (ข้อ 14) ก็สามารถโทรไปเร่งธนาคารได้




รายละเอียด ของ เคเว็บการ์ด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น